
แนวโน้ม Forex (Trend) คืออะไร? ความรู้ พื้นฐาน Forex หากว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังสนใจในตลาด Forex สิ่งแรกที่คุณต้องทำนั่นก็คือ ศึกษาเรียนรู้ข้อมูลของตลาด Forex ว่ามันคืออะไร และคุณจะทำกำไรจากตลาดเงินนี้ได้อย่างไร แต่อย่าลืมว่าก่อนที่คุณจะทำกำไรได้นั้น คุณต้องมีความรู้เรื่องต่างๆในตลาด Forex เสียก่อน เพราะว่าตลาด Forex เป็นตลาดที่มีความผันผวนมาก จึงอาจจะทำให้เทรดเดอร์มือใหม่ที่ยังไม่มีความรู้ที่เพียงพอขาดทุนในเวลาที่รวดเร็วหรือไม่ก็หมดตัวเลยก็มี ดังนั้นความรู้พื้นฐานจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากไม่ว่าจะเป็นเทรดเดอร์มือใหม่หรือแม้แต่เทรดเดอร์มืออาชีพก็ต้องผ่านการเรียนรู้และฝึกฝนด้วยกันทั้งนั้น ส่วนเนื้อหาของบทความนี้ผมจะพาคุณไปรู้จักกับความรู้พื้นฐานที่จะเป็นตัวที่จะบ่งบอกว่ากราฟราคาจะเคลื่อนที่ไปทางไหน นั่นก็คือ แนวโน้ม ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานที่เทรดเดอร์ Forex รวมไปถึงตลาดเงินอื่นๆต้องเรียนรู้ ซึ่งผมจะพาเทรดเดอร์ทุกท่านไปเรียนรู้ว่า แนวโน้ม คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรบ้างครับ
แนวโน้มในตลาด Forex คืออะไร?
แนวโน้ม (Trend) ก็คือ สภาวะการเคลื่อนที่ของราคาที่บ่งบอกว่าราคาจะเคลื่อนที่ไปทางใดทางหนึ่ง โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทได้แก่
1. Up Trend (แนวโน้มขาขึ้น)
- หมายถึง แนวโน้มที่เป็นขาขึ้น ราคาจะมีรูปแบบการปรับตัวสูงขึ้นโดยลักษณะของแนวโน้มขาขึ้นต้องมี จุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่า จุดสูงสุดเก่า และ จุดต่ำสุดใหม่ต้องสูงกว่า จุดต่ำสุดเก่า หรือ High ใหม่ สูงกว่า High เก่า Low ใหม่ สูงกว่า Low เก่า
2. Down Trend (แนวโน้มขาลง)
- หมายถึง แนวโน้มที่เป็นขาลง ราคาจะมีรูปแบบการปรับตัวที่ต่ำลง โดยลักษณะของแนวโน้มขาลงต้องมี จุดสูงสุดใหม่ ที่ต่ำกว่า จุดสูงสุดเก่า และ จุดต่ำสุดใหม่ ที่ต่ำกว่า จุดต่ำสุดเก่า หรือ High ใหม่ต้องต่ำกว่า High เก่า และ
3. Sideway ( แนวโน้มเคลื่อนที่ไปด้านข้าง )
- หมายถึง แนวโน้มที่ไม่แน่นอน ราคาจะมีรูปแบบเคลื่อนที่ไปด้านข้าง ไม่มีทิศทางที่ชัดเจนและมีความผันผวนสูง ลักษณะของแนวโน้ม Sideway จะมีจุดสูงสุดใหม่ที่ใกล้เคียงกับจุดสูงสุดเก่าและจุดต่ำสุดใหม่ต้องใกล้เคียงกับจุดต่ำสุดเก่า
- เทรดเดอร์บางคนใช้แนวโน้ม Sideway ในการทำกำไรโดยใช้ แนวรับ-แนวต้าน เป็นจุดเข้าซื้อขาย
Bull Market (ตลาดกระทิง) คืออะไร?
Bull Market (ตลาดกระทิง) คือ แนวโน้มขาขึ้น (Up Trend) หรือสภาวะตลาดกระทิง ซึ่งที่เรียกว่าตลาดกระทิงก็เพราะว่าตลาดนั้นมีแนวโน้มขาขึ้นเหมือนกับกระทิงขวิดราคาขึ้นไปนั่นเอง จึงถูกเรียกว่าตลาดกระทิง (Bull Market) ส่วนสภาวะกระทิงจะมีช่วงระยะถูกแบ่งเป็น 3 ช่วงด้วยกันได้แก่
- ระยะสะสมหุ้น (Accumulation Phase) คือระยะที่ราคาหุ้นนั้นมีการเคลื่อนไหวน้อยมาก หรือเป็นช่วงแรกที่ราคาเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้น ส่วนมากเทรดเดอร์จะซื้อหุ้นช่วงนี้เก็บไว้เพราะเนื่องจากราคาลงมาค่อนข้างมาก เทรดเดอร์เลยซื้อหุ้นในช่วงนี้ได้ถูกและเก็บไว้เก็งกำไรระยะยาว แต่ยังมีเทรดเดอร์บางคนที่ยังไม่กล้าซื้อหุ้นในระยะนี้
- ระยะกักตุนหุ้น (Participation Phase) คือระยะที่เทรดเดอร์เริ่มรู้แล้วว่าราคาช่วงนี้คือแนวโน้มขาขึ้น ทำให้เทรดเดอร์มั่นใจซื้อหุ้นในระยะนี้กันมากขึ้นกว่าระยะสะสมหุ้นมาก
- ระยะตื่นทอง (Excess Phase) คือระยะที่ราคานั้นเป็นแนวโน้มขาขึ้นหลายวันติดต่อกัน ทำให้เทรดเดอร์มากมายมีความมั่นใจมากในช่วงระยะนี้และรีบซื้อหุ้นกันมากที่สุด ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นนั้นมีการปรับตัวสูงขึ้นหลายเท่า เมื่อราคามีการปรับตัวสูงจนเป็นที่น่าพอใจ เทรดเดอร์บางส่วนก็เริ่มพากันขายหุ้นออกเรื่อยๆ และพอเทรดเดอร์คนอื่นเห็นว่าแนวโน้มอาจมีการเปลี่ยนแปลงจึงพากันรีบขายตาม จึงเกิดเป็นช่วงระยะเริ่มต้นของแนวโน้มขาลง
Bear Market (ตลาดหมี) คืออะไร?
Bear Market (tตลาดหมี) คือ แนวโน้มขาลง (Down Trend) หรือสภาวะตลาดหมี ซึ่งที่เรียกว่าตลาดหมีก็เพราะว่าตลาดนั้นมีแนวโน้มขาลงเหมือนกับหมีตบราคาลงมานั่นเอง จึงถูกเรียกว่าตลาดหมี (Bear Market) ส่วนสภาวะหมีจะมีช่วงระยะถูกแบ่งเป็น 3 ช่วงเหมือนกับ (Bull Market) ได้แก่
- ระยะแจกจ่าย (Distribution Phase) คือระยะที่ราคาหุ้นนั้นมีการปรับตัวสูงขึ้นมากจากราคาจริงในช่วงที่เทรดเดอร์ซื้อในระยะสะสมหุ้น จึงเป็นช่วงที่เทรดเดอร์พากันขายหุ้นเพื่อทำกำไรกันมาก หรือเป็นช่วงแรกที่ราคาเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาลง
- ระยะตกใจ (Panic Phase) คือระยะที่เทรดเดอร์เริ่มรู้แล้วว่าราคาช่วงนี้คือแนวโน้มขาลง จึงทำให้เทรดเดอร์บางส่วนเริ่มพากันขายหุ้นมากกว่าระยะแจกจ่าย และเริ่ม Stop Loss กันมากขึ้นเพราะคิดว่าราคานั้นไปต่อไม่ไหว
- ระยะรวบรวมกำลัง (Consolidation Phase) คือระยะที่ราคานั้นเป็นแนวโน้มขาลงหลายวันติดต่อกันมากที่สุดและเป็นช่วงที่ราคามีราคาต่ำที่สุดอีกด้วย ทำให้เทรดเดอร์มากมายมีการขายเพื่อทำกำไร (Take Profit) และหยุดขาดทุน (Stop Loss) ในระยะนี้
เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับบทความนี้ คุณคงเห็นแล้วว่าแนวโน้มนั้นมีความสำคัญอย่างมากในตลาด Forex เพราะว่าแนวโน้มสามารถทำให้คุณคาดการณ์ว่ากราฟราคาจะเคลื่อนตัวไปในทิศทางไหน และช่วยทำให้คุณเปิดออเดอร์ได้ถูกทางและแม่นยำเพิ่มขึ้นด้วยถ้าคุณรู้ว่าแนวโน้มเป็นอย่างไร แต่การทำกำไรก็ไม่ใช่ว่าคุณจะดูแค่แนวโน้มอย่างเดียว แต่ต้องใช้เทคนิคอื่นๆหรือเครื่องมือเข้ามาช่วยวิเคราะห์กราฟราคาร่วมด้วยถึงจะสามารถคาดการณ์กราฟราคาได้ถูกต้อง และทำกำไรในตลาด Forex ได้อย่างมั่นคง