
Forex คืออะไร ? ข้อมูลสำหรับผู้ที่สนใจเข้ามาหารายได้ในตลาด Forex Forex (Fx) มีคำย่อมาจาก “Foreign Exchange Market” มีความหมายว่า ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมีปริมาณการซื้อขายทั่วโลกรวมกันต่อวันมากถึง 5-7 ล้านล้านเหรียฐดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมูลค่าการซื้อขายต่อวันในตลาด Forex มีค่ามากกว่า 23 เท่าของตลาดเงินทั่วโลกรวมกันเสียอีก เราจึงสามารถสร้างรายได้จาก Forex ด้วยการเก็งกำไรของสกุลเงินต่างๆ ด้วยการซื้อมาในราคาถูกแล้วขายเพื่อทำกำไรในราคาที่แพงกว่า
Forex คืออะไร
ตัวอย่างตลาด Forex แบบง่ายๆ คุณจะไปเที่ยวประเทศสหรัฐอเมริกาด้วยเงินจำนวน 90,000 บาท ขณะนั้นอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1 ดอลลาร์ เท่ากับ 30 บาท คุณจึงนำเงินบาทไทยไปแลกเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่ธนาคารได้ทั้งหมด 3,000 ดอลลาร์ พอผ่านไปสัก 15 วัน คุณได้เดินทางกลับมายังประเทศไทยแต่ไม่ได้ใช้เงินที่แลกไป คุณจึงนำเงิน 3,000 ดอลลาร์ มาแลกคืนเป็นเงินบาทไทยได้ 96,000 บาท เพราะอัตตราแลกเปลี่ยนมีการปรับตัวสูงขึ้นจาก 1 ดอลลาร์ เท่ากับ 30 เพิ่มเป็น 1 ดอลลาร์ เท่ากับ 32 บาท เห็นได้ชัดว่าเราได้กำไรจากการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ 6,000 บาท
มูลค่าการซื้อขายในตลาด Forex
ตลาด Forex มีมูลค่าการซื้อขายสูงมากที่สุดในโลก ซึ่งสูงกว่าตลาดการเงินทั่วโลกรวมกันหลายเท่า
- ทำให้มีผู้คนจำนวนมากสนใจที่จะเข้ามาทำกำไรจากตลาด Forex
- มีเงินจำนวนมากในตลาดและมีสภาพคล่องที่สูงมากเช่นกัน
- สามารถที่จะทำกำไรได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านอุปกรณ์ที่หลากหลายเช่น คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค แท็บเล็ต หรือ สมาร์ทโฟน
สามารถทำกำไรหรือขาดทุนในเวลาที่รวดเร็ว
- คุณสามารถที่จะได้กำไรหรือขาดทุนจากตลาด Forex ในเวลาไม่กี่นาที, ชั่วโมง, เดือน ได้จากที่คุณเลือกกรอบเวลา (Time Frame) ที่คุณจะทำการซื้อขาย
- มีความเสี่ยงสูงมากสำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการเก็งกำไรในตลาด Forex
ใครบ้างที่เข้ามาซื้อขายในตลาด Forex
- ธนาคารของรัฐบาล
- ธนาคารพาณิชย์
- โบรกเกอร์
- กองทุนต่างๆ
- บริษัทประกันภัย
- องค์กรระหว่างประเทศ
- บริษัทพาณิชย์ นำเข้า ส่งออก
- นักลงทุนรายใหญ่
- นักลงทุนรายย่อย ( บุคคลทั่วไป )
ซื้อขายอะไรบ้างในตลาด Forex
คำว่า ซื้อ (Buy) หรือ ขาย (Sell) ในตลาด Forex คือ การที่คุณได้ซื้อสกุลเงินหนึ่งและขายอีกสกุลเงินหนึ่งเพื่อการแลกเปลี่ยน ซึ่งจะเป็นการแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินที่คุณได้เลือกที่จะซื้อขาย ส่วนการแลกเปลี่ยนระหว่างคุ่เงินนั้นจะต้องมี 2 สกุลเงินเสมอ หรือที่เรียกกันว่า “คู่เงิน”
ตัวอย่างเช่น
- EUR/USD
- GBP/USD
- USD/CHF
- USD/JPY
- AUD/USD
คู่เงินหลัก ( Base currency ) คู่เงินรอง ( Quote currency )
- Base currency หมายถึง “ สกุลเงินหลัก ” ทุกคู่เงินจะมีสกุลเงินหลักอยู่ สกุลเงินหลักนั้นจะเป็นสกุลเงินตัวที่อยู่ข้างหน้าเสมอ โดยสกุลเงินหลักจะเป็นตัวที่ใช้อ้างอิงในการ ซื้อ-ขาย อยู่เสมอ เช่น USD/JPY = 111.215 สกุลเงินหลักที่ใช้อ้างอิงคือ USD หมายความว่าเราต้องใช้เงิน 111.215 เยน เพื่อที่จะซื้อสกุลเงินหลักจำนวน 1 ดอลลาร์
- Quote currency หมายถึง “ สกุลเงินอันดับที่สอง ” ทุกคู่เงินจะมีสกุลเงินอันดับที่สองอยู่ สกุลเงินอันดับสองนั้นจะเป็นสกุลเงินตัวที่อยู่ข้างหลังเสมอ โดยสกุลเงินอันดับที่สองจะเป็นสกุลเงินที่ใช้ในการนำไปซื้อสกุลเงินหลักอยู่เสมอ เช่น USD/JPY = 111.25 สกุลเงินหลักที่ใช้อ้างอิงคือ USD มีความหมายว่า ต้องใช้เงิน 111.25 เยน เพื่อที่จะซื้อสกุลเงินหลักจำนวน 1 ดอลลาร์
*สกุลเงินลำดับที่สองในคู่สกุลเงินสำหรับลูกค้าซึ่งเต็มใจจะขายหรือซื้อสกุลเงินหลัก
ในรูปราคาปัจจุบัน EUR/USD = 1.13666
- หมายความว่าเราได้นำเงินจำนวน 1.13666 USD ไปขายเพื่อซื้อสกุลเงิน EUR จำนวน 1 EUR
ตัวอย่างเช่น
เราได้ทำการซื้อคู่เงิน EUR/USD ที่ราคา 1.13666 USD และได้ทำการขายที่ราคา 1.13766 เห็นได้ว่าเราได้กำไรจากการซื้อขายครั้งนี้ 100 จุด ซึ่งจำนวนเงินที่ได้นั้นขึ้นอยู่กับขนาดของคำสั่งซื้อหรือเรียกว่า Lot Size
สกุลเงินที่นิยมซื้อขายมากที่สุดในตลาด Forex
- USD ประเทศ United States สกุลเงิน Dollar
- EUR กลุ่มประเทศ Euro Members สกุลเงิน Euro
- JPY ประเทศ Japan สกุลเงิน Yen
- GBP ประเทศ Great Britain สกุลเงิน Pond
- CHF ประเทศ Switzerland สกุลเงิน Swiss Franc
- CAD ประเทศ Canada สกุลเงิน Canadian Dollar
- AUD ประเทศ Australia สกุลเงิน Australia Dollar
- NZD ประเทศ New Zealand สกุลเงิน New Zealand Dollar
ชื่อและคำเรียกแทนสกุลเงิน
สกุลเงินในตลาด Forex มีหลากหลายสกุลเงิน แต่ละสกุลเงินจะประกอบไปด้วย 3 ตัวอักษร โดยอักษร 2 ตัวแรกจะใช้แทนชื่อประเทศ ส่วนอักษรตัวที่ 3 จะใช้แทนชื่อสกุลเงิน
ตัวอย่าง
- “ประเทศญี่ปุ่น” ชื่อภาษาอังกฤษคือ Japan ตัวย่อ JP
- สกุลในประเทศคือ Yen ตัวย่อ Y
- ชื่อเรียกสกุลเงินญี่ปุ่นจึงมีชื่อว่า “JYP”
- “ประเทศสหรัฐอเมริกา” ชื่อภาษาอังกฤษคือ United States ตัวย่อ US
- สกุลในประเทศคือ Dollar ตัวย่อ D
- ชื่อเรียกสกุลเงินประเทศสหรัฐอเมริกาจึงมีชื่อว่า “USD”
องค์ประกอบและเวลา เปิด-ปิด ของตลาด Forex ทั่วโลก
- ตลาด Forex มีศูนย์กลางใหญทั้งหมด 4 ประเทศได้แก่ London , New York , Sydney และ Tokyo
เวลา เปิด-ปิดของตลาด Forex ในแต่ละตลาด ตามเวลาประเทศไทย
- (USD) ตลาดอเมริกาเปิดเวลา 19.00 น. และ ตลาดปิดเวลา 03.00 น.
- (GBP) ตลาดลอนดอนเปิดเวลา 15.00 น. และ ตลาดปิดเวลา 23.00 น.
- (AUD) ตลาดออสเตรเลียเปิดเวลา 05.00 น. และตลาดปิดเวลา 13.00 น.
- (JPY) ตลาดโตเกียวเปิดเวลา 06.00 น. และตลาดปิดเวลา 14.00 น.
- (EUR) ตลาดยุโรปเปิดเวลา 14.00 และ ตลาดปิดเวลา 23.00 น.
- (CAD) ตลาดแคนาดาเปิดเวลา 19.00 น. และ ตลาดปิดเวลา 03.00 น.
ตลาด Forex สามารถทำการซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง จันทร์-ศุกร์ ตลาดเปิดวันจันทร์ เวลา 04.00น. และจะปิดวันเสาร์ เวลา 04.00 น. สรุปก็คือ คุณสามารถเทรด Forex ได้ จันทร์-ศุกร์ (ตลาดเปิด) ยกเว้น เสาร์-อาทิตย์ (ตลาดปิด)
ข้อดีของตลาด Forex มีอะไรบ้าง
- สามารถซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- สามารถเลือกใช้อุปกรณ์ที่หลากหลายซื้อขายได้ทุกที่ทุกเวลา เช่น คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน เพียงแค่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ตหรือ 4G
- สามารถทำกำไรได้ทุกสภาวะตลาด ไม่ว่าจะเป็นสภาวะขาขึ้นหรือหรือสภาวะขาลง
- สามารถที่จะใช้บัญชีทดลองหรือบัญชีเงินปลอม ( demo ) ทำการฝึกฝนในการซื้อขาย
- ใช้เงินลงทุนน้อยแค่หลักร้อยก็สามารถซื้อขายในตลาด Forex ได้แล้ว
- มีค่านายหน้าหรือค่าบริการที่ต่ำมากและมีทีมงานคอยให้บริการ 24 ชั่วโมง
ข้อเสียของตลาด Forex มีอะไรบ้าง
- มีความเสี่ยงสูงมากถ้าหากเทรดเดอร์ไม่มีความรู้หรือความเข้าใจที่ถูกต้อง
- เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ในระยะเวลาที่นาน กว่าจะเข้าใจตลาด
อยากเริ่มต้นลงทุนในตลาด Forex ต้องทำอย่างไรบ้าง
- การซื้อขาย Forex ต้องดำเนินการผ่านโบรกเกอร์เต่างประเทศเท่านั้น เพราะในประเทศไทยนั้นยังไม่มีกฎหมายรับรอง Forex
- เปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้
- ยืนยันบุคคล
- ศึกษาหาความรู้จากสื่อต่างๆ
- ฝึกบัญชีเงินปลอม (Demo) จนเข้าใจ
- ถ้ามั่นใจแล้วก็ฝากเงินเข้าบัญชีกับโบรกเกอร์ที่เราเลือก
- ซื้อขาย Forex ด้วยโปรแกรม MT4, MT5, และ Web Terminal