Price action คืออะไร ? เทคนิคการทำกำไรจากตลาด Forex

Price action คืออะไร ? เทคนิคการทำกำไรจากตลาด Forex เทรดเดอร์ Forex นั้นมีเทคนิคการทำกำไรที่ไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะชอบใช้เครื่องมือช่วยเพื่อวิเคราะห์กราฟราคาอย่างเช่น อินเดอเคเตอร์ (Indicator) หรือกราฟแท่งเทียน Candlestick และเทคนิคอื่นๆอีกมากมาย  ส่วนบทความนี้ผมจะพาเทรดเดอร์ไปรู้จักเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์กราฟราคาที่ดีอีกตัวหนึ่งนั่นก็คือ “Price Action” ซึ่งเป็นเทคนิคที่เทรดเดอร์ในตลาด Forex นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร ผมจึงอยากให้เทรดเดอร์ทุกๆคนได้ศึกษาเรียนรู้เรื่อง Price Action ไว้ เพราะมันจะทำให้คุณวิเคราะห์กราฟราคาได้อย่างแม่นยำ และ Price Action ไม่ต้องอาศัยเครื่องมืออื่นๆเพื่อช่วยในการวิเคราะห์อีกด้วย และใจความสำคัญของบทความนี้ก็คือ Price Action คืออะไร ถ้าคุณอยากรู้แล้วไปดูกันเลยครับ

Price action คืออะไร?

Price Action คือ รูปแบบของกราฟที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ซึ่งเทรเดอร์จะนำ Price Action มาคาดการณ์กราฟราคาในอนาคตว่ามันจะไปทิศทางไหน  Price Action มีแนวคิดมาจากการศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์หมู่มาก (จิตวิทยาหมู่) และยังได้แนวคิดมาจาก “ทฤษฎีดาว (Dow Theory)” ที่ได้ให้ความสนใจไปที่แนวโน้มของตลาด ซึ่งจะมีหลักการคล้ายๆกับ Price Action และการใช้เทคนิคซื้อขายแบบ Price Action ยังสามารถใช้เครื่องมือต่างๆในการช่วยวิเคราะห์กราฟราคาได้ด้วย อย่างเช่น Trend Line (เทรนไลน์) เส้นแนวโน้ม, เส้นแนวรับ-แนวต้าน, Sideway (สภาวะไซด์เวย์) หรือ Indicator (อินดิเคเตอร์) และเครื่องมืออื่นๆอีกมากมายที่คุณสามารถนำมาร่วมวิเคราะห์กับ Price Action ได้ แต่ส่วนมากเทรดเดอร์ในตลาด Forex ที่ชอบใช้ Price Action จะไม่ค่อยใช้เครื่องมืออื่นสักเท่าไหร่นัก เพราะเขาเหล่านั้นเชื่อว่าราคาในตลาดได้สะท้อนทุกอย่างไว้หมดแล้ว และใช้แต่กราฟแท่งเทียนล้วนๆ ทีนี้ผมจะพาเทรดเดอร์ทุกท่านไปทำความรู้จักกับ Price Action ให้มากขึ้นว่ารูปแบบของมันนั้นมีแบบไหนบ้าง แต่ก่อนที่คุณจะไปเรียนรู้เรื่อง Price Action ผมอยากจะให้เทรดเดอร์ทุกๆท่านได้รู้จักกับกราฟแท่งเทียน (Candlestick) ก่อน ว่ามันคืออะไร เพราะว่า กราฟแท่งเทียน (Candlestick) เป็นพื้นฐานของการซื้อขายแบบ Price Action เลยก็ว่าได้

กราฟแท่งเทียน (Candlestick) คืออะไร?

“กราฟแท่งเทียน (Candlestick)” คือ กราฟที่นำมาวิเคราะห์ราคาในตลาดเงินหลายๆแห่งและยังเป็นที่นิยมมากในตลาด Forex ซึ่งประกอบไปด้วยข้อมูลต่างๆในตลาด Forex ไดแก่ จุดสูงสุด (High), จุดต่ำสุด (Low), ราคาเปิด (Open), ราคาปิด(Close) แล้วก็ เนื้อเทียน Real Body แต่สำคัญที่สุดของ กราฟแท่งเทียน (Candlestick) ในบทความนี้ก็คือ สามารถใช้วิเคราะห์ Price Action (พฤติกรรมราคา), Chart Pattern (รูปแบบของราคา) และเรื่องอื่นๆอีกมากมาย และนี่ก็ยังเป็นแค่ข้อมูลคร่าวๆของ กราฟแท่งเทียน (Candlestick) นะครับ ถ้าหากเทรดเดอร์ท่านใดสนใจก็เข้าไปอ่านต่อที่บทความเรื่อง กราฟแท่งเทียน ได้เลยครับ

ตัวอย่างรูปแบบของ Price Action

Up bar (Bullish bar)

• เป็นกราฟแท่งเทียนที่ทำ High สูงขึ้น และ Low สูงขึ้น และต้องสูงขึ้นกว่าแท่งก่อน
• กราฟแท่งเทียนจะมีลักษณะเป็นสีเขียว และราคาปิดต้องสูงกว่าราคาเปิด
• แต่บางครั้งกราฟแท่งเทียนก็จะเป็นสีแดง ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด
• แต่มีข้อแม้ว่า กราฟแท่งเทียนที่เป็นแดงต้องทำ High สูงขึ้น และ Low สูงขึ้น และต้องสูงขึ้นกว่าแท่งก่อน ถึงจะเรียกว่า Bullish bar (Up bar)

Down bar (Bearish bar)

• เป็นกราฟแท่งเทียนที่ทำ High ต่ำลง และ Low ต่ำลง และต้องต่ำลงกว่าแท่งก่อน
• กราฟแท่งเทียนจะมีลักษณะเป็นสีแดงและราคาปิดสูงกว่าราคาเปิด
• แต่บางครั้งกราฟแท่งเทียนก็จะเป็นสีเขียว ราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิด
• แต่มีข้อแม้ว่า กราฟแท่งเทียนที่เป็นสีเขียวต้องทำ High ต่ำลง และ Low ต่ำลง และต้องต่ำลงกว่าแท่งก่อน ถึงจะเรียกว่า Bullish bar (Up bar)

Inside bar (Narrow range bar)

• เป็นกราฟแท่งเทียนที่ทำ High ต่ำกว่าแท่งก่อน แต่ Low สูงขึ้นและสูงขึ้นกว่าแท่งก่อน
• ซึ่งเป็นรูปแบบที่ราคาบีบตัวแคบลง เพราะว่าราคายังไม่สามารถเลือกทิศทางได้
• แต่ถ้าราคาฝั่งไหนที่มีแรงซื้อหรือแรงขายมากกว่าก็จะไปฝั่งนั้น

Outside bar (Mother bar)

• เป็นกราฟแท่งเทียนที่ทำ High สูงขึ้นกว่าแท่งก่อน แต่ Low ต่ำลงและต่ำลงกว่าแท่งก่อน
• ซึ่งเป็นรูปแบบที่บอกวากราฟราคาได้เลือกข้างแล้ว เพราะว่ามีแรงซื้อหรือแรงขายที่มากกว่า

Pin bar

• เป็นกราฟแท่งเทียนที่เปรียบเหมือนมีการปฎิเสธของราคา ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 รูปแบบ
• Bullish pin bar จะมีลักษณะไส้เทียนยาวๆข้างล่าง และเนื้อเทียนน้อย และเนื้อเทียนต้องน้อยกว่าไส้เทียนประมาณ 1 ใน 4 ของไส้เทียน อธิบายง่ายๆก็คือ แท่งเทียนนั้นมีแรงขายลงมาระหว่างวัน แต่สุดท้ายแรงซื้อก็กลับเข้ามาจนชนะแรงขายได้จึงทำให้ราคากลับขึ้นไป มีความหมายว่า แท่งเทียนนั้นมีแรงซื้อมากว่าแรงขายนั่นเอง
• Bearish pin bar จะมีลักษณะไส้เทียนยาวๆข้างบน และเนื้อเทียนจะน้อยมากประมาณ 1 ใน 4 ของไส้เทียน อธิบายง่ายๆก็คือ แท่งเทียนนั้นมีแรงซื้อลงมาระหว่างวัน แต่สุดท้ายแรงขายก็กลับเข้ามาจนชนะแรงซื้อได้จึงทำให้ราคากลับลงมา มีความหมายว่า แท่งเทียนนั้นมีแรงขายมากว่าแรงซื้อนั่นเอง

นี่เป็นแค่รูปแบบคร่าวๆของ Price Action เท่านั้น เพราะรูปแบบของมันนั้นมีมากมายนับไม่ถ้วน ถ้าผมเอามาให้ดูทั้งหมดก็คงจะยาวมากๆสำหรับบทความนี้ และก็ยังมีรูปแบบ Price Action อีกหลายตัวที่ตัวผมเองก็ยังไม่รู้ แต่ถ้าคุณอยากเรียนรู้เกี่ยวกับมันจริงๆก็สามารถไปหาดูตามสื่อต่างๆได้บนอินเตอร์เน็ต และสำหรับมือใหม่การทำกำไรจาก Price Action ที่ดีคุุณควรจะใช้เครื่องมืออื่นช่วยวิเคราะห์ด้วย และเพื่อช่วยให้คุณมีความมั่นใจในการเทรดมากขึ้นอีกด้วย