• โบรกเกอร์ยอดเยี่ยม ปี 2019

    #โบรกเกอร์ 
    1 รีวิว โบรกเกอร์ Xm92%
    2 รีวิว โบรกเกอร์ exness95%
  • Spread, Bid, Ask คืออะไร ? พื้นฐาน คำศัพท์ Forex

    Spread คืออะไร

    Spread, Bid, Ask คืออะไร ? พื้นฐาน คำศัพท์ Forex เมื่อเทรดเดอร์ได้ตัดสินใจที่จะเข้ามาหาความท้าทายในตลาด Forex แล้ว คุณจึงต้องมีความรู้เกี่ยวกับ Forex ให้ได้มากที่สุดไม่ว่าจะเป็น คำศัพท์ Forex, ความรู้พื้นฐาน Forex, เทคนิคทำกำไรจากตลาด Forex  อินดิเคเตอร์ (Indicator), กราฟแท่งเทียน (Candlestick) และอื่นๆอีกมากมายที่คุณควรศึกษาเรียนรู้มัน เพราะว่าตลาด Forex เป็นตลาดเงินที่มีความเสี่ยงสูงมาก ถ้าคุณไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้อย่าหวังว่าคุณจะทำกำไรจากตลาดเงินนี้ได้โดยง่าย ความรู้พื้นฐานและคำศัพท์จึงเป็นสิ่งที่คุณต้องศึกษาเป็นอันดับแรกๆ และวันนี้ผมจึงอยากให้เทรดเดอร์มือใหม่ได้รู้จักกับคำศัพท์ Forex และค่าที่สำคัญในโปรแกรม Matatrader 4 หรือ Metatrader 5 ที่เทรดเดอร์ทุกๆคนในตลาด Forex ต้องรู้จักนั่นก็คือ Spread, Bid, Ask ว่ามันคืออะไร และมีความสำคัญต่อเทรดเดอร์อย่างเรามากน้อยขนาดไหน และเทรดเดอร์บางคนยังไม่รู้อีกว่าทำไมเวลาเปิดออเดอร์เราต้องขาดทุนหรือติดลบก่อนด้วยบทความนี้มีคำตอบครับ

    ทำความรู้จัก Spread, Bid, Ask

    bid ask spread

    Spread (สเปรด) คือ ค่าบริการหรือค่าธรรมเนียมที่เทรดเดอร์จ่ายให้กับโบรเกอร์ ซึ่งเป็นส่วนต่างของราคา Bid กับราคา Ask เมื่อคุณเปิดออเดอร์ Buy หรือ Sell เมื่อไหร่ ออเดอร์นั้นก็จะติดลบทันที และราคา Bid กับ ราคา Ask จะมีราคาที่ไม่เท่ากันเพราะ ราคา Ask จะมีราคาสูงกว่า ราคา Bid เสมอ

    Bid คือ ราคาที่โบรเกอร์รับซื้อจากเรา เช่น ถ้าคุณจะเปิดออเดอร์ Sell ก็ให้คุณดูที่ราคา Bid ส่วน

    Ask คือ ราคาที่โบรกเกอร์ขายให้กับเรา เช่น ถ้าคุณจะเปิดออเดอร์ Buy ก็ให้คุณดูที่ราคา Ask

    ตัวอย่าง

    ร้านทองแห่งหนึ่งติดป้ายประกาศขายทอง บาทละ 19,950 และ รับซื้อบาทละ 19,850

    spread

    เท่ากับว่าคุณต้องนำเงินจำนวน 19,950 บาท เพื่อนำเงินไปซื้อทองน้ำหนัก 1 บาท แต่พอผ่านไปสักหนึ่งชั่วโมงคุณเกิดร้อนเงินจึงได้นำทอง 1 บาท ที่ซื้อมาไปขายคืนให้กับร้านทอง และได้เงินคืนเป็นเงินจำนวน 19,850 บาท แสดงว่าการแลกเปลี่ยนครั้งนี้ คุณขาดทุน 100 บาท ซึ่งในตลาด Forex การขาดทุนแบบนี้เรียกกันว่า Spread (สเปรด) ส่วนราคาที่เราซื้อจากร้านทองนั้นก็คือ ราคา Ask และราคาที่ร้านทองรับซื้อจากเราก็คือ ราคา Bid และส่วนต่างตรงนี้คือกำไรของร้านทองนั่นเอง

    วิธีการคำนวณ Spread (สเปรด)

    bid ask spread

    • ให้เทรดเดอร์เปิดแท็บ Market Watch ในโปรแกรม Matatrader 4 หรือ Matatrader 5 ขึ้นมา
    • แล้วทำการหาค่า Spread (สเปรด) โดยการ นำราคา Ask ไปลบกับราคา Bid

    แต่ก็ยังมีอีกวิธีที่เทรดเดอร์สามารถดู Spread ได้ง่ายๆก็คือ คลิกขวาที่หน้าต่าง Market Watch และก็เลื่อนเมาส์ไปที่ Spread จากนั้นก็จะมีแถบที่โชว์ค่า Spread (สเปรด) ขึ้นมา โดยโปรแกรมนั้นได้คิดค่า Spread (สเปรด) ให้คุณเรียบร้อยแล้ว ในกรอบสีแดงที่มีเครื่องหมายตกใจ

    เทรดเดอร์บางคนคงจะงงว่าทำไมไม่สอนวิธีอย่างหลังตั้งแต่แรกซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายกว่าที่ตัวคุณจะมานั่งเสียเวลาคำนวนหาค่า Spread (สเปรด) เอง แต่นั่นก็เพราะว่าการที่คุณรู้ที่มาของค่านั้นมันย่อมดีกว่าไม่รู้อะไรเลย ดังนั้นคุณควรจะรู้ที่มาและพื้นฐานของมันก่อนถึงจะไปใช้ตัวช่วยอย่างอื่นเพื่อทุ่นแรงทีหลังดีกว่า

    และการเลือกเปิดบัญชีกับโบรเกอร์ที่มี Spread (สเปรด) ที่ต่ำนั้นสำคัญอย่างมาก เพราะมันจะทำให้คุณได้กำไรที่มากขึ้น เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่น้อยลง และการเลือกโบรกเกอร์ที่มี Spread (สเปรด) ต่ำจึงมีความสำคัญเป็นอันดับแรกในการเริ่มต้นในการทำกำไรจากตลาด Forex ซึ่งค่า Spread (สเปรด) ที่เทรดเดอร์เสียนั้นเป็นรายได้หลักของโบรกเกอร์ และ Spread (สเปรด) ก็ไม่ใช่รายได้ทั้งหมดที่โบรกเกอร์จะได้ แต่ยังมีรายได้จาก ค่าคอมมิชชั่น และ ค่าบริการอื่นๆอีก ส่วนเทรดเดอร์มือใหม่ที่ยังไม่เข้าใจว่าโบรเกอร์คืออะไร หัวข้อต่อไปจะพาเทรดเดอร์มือใหม่ไปทำความรู้จักกับคำว่า “โบรกเกอร์” สักเล็กน้อยว่ามันคืออะไร แต่สำหรับเทรดเดอร์ท่านไหนที่รู้อยู่แล้วก็ข้ามไปเนื้อหาต่อไปได้เลยครับ

    โบรกเกอร์ Forex คืออะไร?

    • โบรกเกอร์ Forex คือ คนกลางที่รับคำสั่งซื้อ-ขายจากเทรดเดอร์รายย่อยกับตลาด Forex
    • เพราะเทรดเดอร์รายย่อยอย่างเราไม่สามารถส่งคำสั่งซื้อ-ขายโดยตรงไปยังตลาด Forex ได้ เลยจำเป็นต้องทำการเทรดผ่านโบรกเกอร์เท่านั้น

    โบรกเกอร์แต่ละที่ยังมีการแข่งขันกันเองเพื่อดึงดูดลูกค้าอย่างเช่นค่า Spread (สเปรด) และ ค่า Commission (คอมมิชชั่น) ต่ำ ซึ่งเป็นผลดีต่อเทรดเดอร์อย่างมาก เพราะโบรกเกอร์ที่มีค่า Spread (สเปรด) และ ค่า Commission (คอมมิชชั่น) ที่สูงจะทำให้เราได้กำไรน้อยลง ถ้าโบรกเกอร์ที่เราเลือกมีค่า Spread (สเปรด) และ ค่า Commission (คอมมิชชั่น) ต่ำก็จะทำให้เรามีอัตราการได้กำไรที่สูงยิ่งขึ้น ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ค่าใช้จ่ายสูงก็จะทำให้เราได้กำไรน้อยหรือลดโอกาสกำไรของเทรดเดอร์ไป และถ้าค่าใช้จ่ายน้อยก็จะทำให้เราเพิ่มโอกาสในการสร้างกำไรได้มากขึ้นนั่นเอง ส่วนการเลือกโบรเกอร์คุณก็ควรจะศึกษาว่าโบรกเกอร์มีแบบไหนบ้างเพื่อที่คุณจะเลือกเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัย

     

    error: Content is protected !!