Take Profit คืออะไร ? ขาดไม่ได้หากต้องการ รักษากำไร Forex สิ่งที่สำคัญพอๆกับการ Stop Loss คืออะไร คุณรู้บ้างไหมครับ เพราะว่าการป้องกันการการทุนเกินความจำเป็นหรือการหยุดขาดทุนจากสิ่งที่คุณไม่อาจรู้ได้ว่าข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นได้บ้างนั้นมีความสำคัญต่อการเทรดขอคุณอย่างมาก ถ้าหากคุณวิเคราะห์กราฟราคาผิดพลาดและเกิดไม่มี Stop Loss พอร์ตลงทุนของคุณคงเสียหายหรือขาดทุนจนหมดตัวภายในเวลาอันรวดเร็วอย่างแน่นอน แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นก็คือ Take Profit สิ่งที่ตรงกันข้ามกับคำว่า Stop Loss และยังช่วยให้คุณทำกำไรจากตลาด Forex ได้อย่างแน่นอน แต่สำหรับเทรดเดอร์มือใหม่คงจะยังไม่รู้ว่า Take Profit คืออะไร ผมจึงได้เขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อให้เทรดเดอร์ทุกๆคนได้เรียนรู้ไปพร้อมๆกันว่า Take Profit คืออะไร และสามารถใช้ประโยชน์จาก Take Profit ได้อย่างไร
Take Profit คืออะไร
Take Profit คือ จุดทำกำไร โดยการที่คุณคาดการ์หรือวิเคราะห์แล้วว่าราคาน่าจะไปถึงและก็ตั้งจุด Take Profit เพื่อทำกำไรในจุดที่คุณกำหนด ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆในตลาด Forex เพราะว่าตลาด Forex นั้นมีความผันผวนและกราฟราคาแกว่งตัวรุนแรงมาก ถ้าหากว่าคุณเปิดออเดอร์ถูกทางแล้วไม่มี Take Profit ก็อาจจะทำให้คุณเสียดายในภายหลังได้ เพราะว่าการ Take Profit ก็คือ จุดทำกำไร ชื่อของมันก็บอกไว้อยู่ และถ้าคุณไม่มีมันคุณจะทำกำไรได้อย่างไร
Take Profit มีประโยชน์อย่างไรบ้าง?
มีเทรดเดอร์หลายๆคนคงมีคำถามในหัวว่าทำไม Take Profit สำคัญตรงไหน? ถ้าเกิดเราได้กำไรอยู่ก็ทำการปิดออเดอร์นั้นเองซิ แต่ผมอยากถามคุณกลับว่าถ้าเกิดเวลานั้นคุณไม่ว่างดูหรือเกิดวิเคราะห์ผิดพลาดขึ้นมาทั้งๆที่คุณได้กำไรอยู่แต่ดันไม่มี Take Profit จึงทำให้คุณพลาดกำไรที่ควรจะได้ แถมกราฟราคายังกลับตัวจนเกิดติดลบอีก มันก็คงจะทำให้คุณเจ็บใจมากไม่น้อยเลยใช่ไหมครับ ดังนั้นการมี Take Profit ย่อมดีกว่าไม่มี เพราะจะทำให้คุณได้กำไรและยังป้องกันความเสี่ยงจากสิ่งที่ไม่คาดคิดอีกด้วย
วิธีการ Take Profit เบื้องต้น
Take Profit คือ จุดทำกำไรที่ราคาน่าจะไปถึง และการตั้ง Take Profit ของเทรดเดอร์แต่ละคนก็คงจะไม่เหมือนอยู่แล้ว ดังนั้นผมจะพาคุณไปดูตัวอย่างการตั้ง Take Profit ในตลาด Forex มีแบบไหนบ้าง
Take Profit ที่ แนวรับ-แนวต้าน
สมมุติว่าคุณได้ทำการซื้อ-ขายในช่วงที่ตลาดเป็น Side Way
- และคุณวิเคราะห์กราฟราคาแล้วว่าราคากำลังจะกลับตัว
- เลยตัดสินใจเปิดออแอร์ Buy ที่บริเวณแนวต้าน
- และทำการตั้งจุดทำกำไร (Take Profit) ที่แนวรับอย่างนี้เป็นต้น
อันนี้จะเป็นการซื้อ-ขายบริเวณเส้น Trend Line ที่เป็น แนวรับ-แนวต้าน แนวโน้มขาขึ้น
- สมมุติว่าคุณได้ทำการเปิดออเดอร์ Sell ที่เส้น Trend Line (แนวต้าน)
- และทำการตั้งจุดทำกำไรที่เส้น Trend Line (แนวรับ)
Take Profit ไล่ตามราคา
- สมมุติว่าคุณเปิดออเดอร์ Sell ในช่วงที่ตลาดเป็นเทรน (Trend)
- คุณวิเคราะห์แล้วว่าตลาดตอนนี้เป็นแนวโน้มขาลงอย่างต่อเนื่อง
- เลยตัดสินเปิดออเดอร์ Sell ที่จุดสูงสุดที่กราฟราคากำลังจะกลับตัว
- และได้ทำการ Take Profit ที่จุดต่ำสุดใหม่ และทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าแนวโน้มจะมีการเปลี่ยนแปลง
Take Profit ตามเปอร์เซ็นต์
- คุณทำการซื้อ-ขายคู่เงิน EUR/USD ในช่วงที่ตลาดเป็นเทรน (Trend)
- คุณวิเคราะห์แล้วว่าตลาดตอนนี้เป็นเป็นแนวโน้มขาขึ้น
- เลยตัดสินใจเปิดออเดอร์ Buy ที่ราคา 1.2000
- และได้ตั้งใจแล้วว่าจะเอากำไรจากออเดอร์นี้ 10 %
- พอราคาไปถึงที่ราคา 1.2010 ก็ไดทำการปิดออเดอร์นั้นเพื่อทำกำไรทันทีอย่างนี้เป็นต้น
Take Profit ตามสัญญาณ Indicator (อินดิเคเตอร์)
Take Profit ตามสัญญาณอินดิเคเตอร์ คือ การใช้อินดิเคเตอร์เพื่อช่วยในการช่วยตัดสินใจตั้งจุดทำกำไร (Take Profit) เช่น
- คุณวิเคราะห์กราฟราคาโดยใช้ Fibonacci ในสภาวะที่ตลาดเป็นแนวโน้มขาขึ้น
- แล้วคุุณก็วิเคราะห์แล้วว่ากราฟราคากำลังจะกลับตัว
- คุณจึงตัดสินใจเปิดออเดอร์ Buy ที่เส้น 0.0
- แล้วตั้งจุด Take Profit ตามเส้น 23.6, 38.2, 50.0, 61.8, 100.0 อย่างนี้เป็นต้น
หลักการของการทำกำไรของ MACD คือ ซื้อ-ขายเมื่อเส้นประสีแดง (Moving Average) และเส้นสีเขียว (Signal Line) ตัดกันที่เส้น 0.0 แต่ว่าการซื้อ-ขายเราจะไม่ซื้อ-ขายในทันที แต่ให้รอจนเส้นตัดกันสักระยะแล้วค่อยเปิดออเดอร์ เช่น
- เส้นสีแดงตัดเส้นสีเขียวขึ้นไปที่เส้น 0.0
- พอสักพักคุณจึงได้ตัดสินใจเปิดออเดอร์ Buy
- และรอจนกว่าเส้นสีแดงตัดเส้นสีเขียวลงมาที่เส้น 0.0 ถึงจะปิดออเดอร์นั้นๆ
- พอผ่านไปสักพักเส้นสีแดงก็ตัดเส้นสีแดงลงมาที่เส้น 0.0 คุณจึงได้ทำการ Take Profit
เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับการ Take Profit พอได้รู้จักความหมายของมันแล้ว เทรดเดอร์หลายๆคนคงจะรู้ถึงความสำคัญของมันแล้วใช่ไหมครับ ว่าการ Take Profit นั้นมีความสำคัญต่อคุณขนาดไหน เพราะการตั้ง Take จะช่วยให้คุณได้กำไรที่แน่นอน และยังไม่ต้องกังวลว่ากราฟราคาจะกลับตัวจนต้องขาดทุนอีกด้วย ดังนั้นการมี Take Profit ย่อมดีกว่าการไม่มีอย่างแน่นอน